ค่าครองชีพทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


น้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงทำให้น้ำมันเริ่มร่อยหรอลงไปทุกที ด้วยเหตุนี้ราคาน้ำมันจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระนี้ โดยเฉพาะผู้ใช้รถส่วนตัว

คนไทยกำลังใช้น้ำมันในราคาแพงจริงหรือ ยังเป็นข้อสงสัยกันอยู่ทุกวันนี้  และจากข้อมูลพบว่าราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 91 อยู่ที่ 46.45 บาทต่อลิตร ขณะที่น้ำมันเบนซิน 95 แตะที่ 48.95 บาทต่อลิตร คาดว่าอีกไม่นานมีสิทธิ์ได้เห็นราคาน้ำมันแตะที่ 50 บาทต่อลิตรเป็นแน่ ทำให้ราคาน้ำมันเป็นที่น่าหนักใจของผู้ใช้รถพอสมควร

จากผลสำรวจทั่วโลกพบว่ายังมีประเทศที่มีราคาน้ำมันสูงนั่นคือ ประเทศตุรกี โดยราคาน้ำมันอยู่ที่ 9.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อแกลลอน หรือคิดเป็นลิตรละ 78 บาท ตามมาด้วย “นอร์เวย์” ที่ 9.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อแกลลอน ตีเป็นเงินไทย ลิตรละ 76 บาท ขณะที่ประเทศไทย” ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 47 มีราคาน้ำมันอยู่ที่ 4.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อแกลลอน คิดแล้วก็ตกอยู่ที่ประมาณลิตรละประมาณ 34 บาท และยังถูกกว่าประเทศสิงคโปร์ที่ตกลิตรละ 50 บาท

ราคาน้ำมันของไทยไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งนี้อันดับที่จัดมาเป็นแค่การจัดอันดับราคาขายในประเทศเท่านั้น หากจะให้วัดกันจริงๆ ต้องดูที่ค่าครองชีพของประชากรในประเทศ ว่าประเทศไหนใช้น้ำมันถูก น้ำมันแพงกว่ากัน และเมื่อวัดจากค่าครองชีพแล้ว ทำให้ไทยติดอันดับ 10 ของโลกในการใช้น้ำมันแพงมากที่สุด เพราไทยประชากรมีรายได้เฉลี่ยอยูที่ 507 บาทต่อวัน และรายได้ถูกแบ่งไปที่น้ำมันถึงร้อยละ 25 ในขณะที่นอร์เวย์มีรายได้เฉลี่ยนต่อวันที่ 8,355 บาท ทำให้การจ่ายน้ำมันแค่ลิตรละ 76 บาทเป็นเรื่องง่าย ส่งผลให้นอร์เวย์ไปอยู่อันดับที่ 51 ในด้านการใช้น้ำมันแพงของโลก

จากผลสำรวจทำให้พบว่า ถึงแม้บางประเทศมีค่าน้ำมันที่แพง  แต่หากนำรายได้ต่อหัวต่อวันของประชากรมาคิดค่าเฉลี่ยแล้ว ถือว่าคนเอเชียต้องกระเป๋าฉีกเพราะค่าน้ำมันมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว โดยเฉพาะประเทศไทย